• บริการจัดส่งภายในประเทศ
  • ได้รับสินค้ารวดเร็วทันใจ
  • ช๊อปปิ้งออนไลน์ได้ 24 ชั่วโมง
คำนวณปริมาณสีที่ใช้
บัญชี
ลงชื่อเข้าใช้ ลงทะเบียน คำสั่งซื้อของคุณ
th
en th
0
0
ลงชื่อเข้าใช้
ลงทะเบียน
  • โปรโมชั่น
  • สินค้าทั้งหมด
  • สีทาบ้าน
    สี Professional (ไม่ต้องทารองพื้น)
    สีทาภายใน สีทาภายนอก สีทาฝ้าเพดาน
    สีเบเยอร์ ราคาพิเศษ (จำนวนจำกัด)
    สีทาภายใน สีทาภายนอก สีทาฝ้าเพดาน
  • อุปกรณ์ช่าง
    อุปกรณ์ช่างสี
    ลูกกลิ้งทาสีเบเยอร์ อะไหล่ลูกกลิ้งทาสีเบเยอร์ แปรงทาสีเบเยอร์ แปรงทายูรีเทน/แชล็ก/แลกเกอร์ เทปฟิล์มกันเปื้อน เทปกาวย่นเบเยอร์ เครื่องขัดผนังสกิมโค้ท กระดาษทรายขัดสกิมโค้ท
    อุปกรณ์อื่นๆ
    ถังน้ำ ปั้มน้ำ solar cell
  • บริการ
    บริการทาสีบ้านครบวงจร
    บริการติดตั้ง solar cell
  • บทความ
    สาระหน้ารู้
    คุณสมบัติในการเลือกพรมมาใช้ในบ้าน
    เกี่ยวกับช่างสี
    วิธีการป้องกัน ปัญหารอยลูกกลิ้ง (Roller Mark) ฺBeger Professional สีไม่ต้องทารองพื้น
    หน้าหลัก
  • ภาษาไทย
  • คำสั่งซื้อของคุณ
ติดต่อเรา
ลงชื่อเข้าใช้
ลงทะเบียน
  • โปรโมชั่น
  • สินค้าทั้งหมด
  • สีทาบ้าน
    สี Professional (ไม่ต้องทารองพื้น)
    สีทาภายใน สีทาภายนอก สีทาฝ้าเพดาน
    สีเบเยอร์ ราคาพิเศษ (จำนวนจำกัด)
    สีทาภายใน สีทาภายนอก สีทาฝ้าเพดาน
  • อุปกรณ์ช่าง
    อุปกรณ์ช่างสี
    ลูกกลิ้งทาสีเบเยอร์ อะไหล่ลูกกลิ้งทาสีเบเยอร์ แปรงทาสีเบเยอร์ แปรงทายูรีเทน/แชล็ก/แลกเกอร์ เทปฟิล์มกันเปื้อน เทปกาวย่นเบเยอร์ เครื่องขัดผนังสกิมโค้ท กระดาษทรายขัดสกิมโค้ท
    อุปกรณ์อื่นๆ
    ถังน้ำ ปั้มน้ำ solar cell
  • บริการ
    บริการทาสีบ้านครบวงจร
    บริการติดตั้ง solar cell
  • บทความ
    สาระหน้ารู้
    คุณสมบัติในการเลือกพรมมาใช้ในบ้าน
    เกี่ยวกับช่างสี
    วิธีการป้องกัน ปัญหารอยลูกกลิ้ง (Roller Mark) ฺBeger Professional สีไม่ต้องทารองพื้น
    หน้าหลัก
  • ภาษาไทย
  • คำสั่งซื้อของคุณ
ติดต่อเรา
  • หน้าหลัก
  • นโยบายการใช้คุกกี้ และ นโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

My Shopping Bag

ไม่พบสินค้าในตะกร้าสินค้าของคุณ

การส่งสินค้า

นโยบายคุกกี้

บริษัท เบเยอร์ จำกัด (“บริษัท”) อาจมีการใช้คุกกี้หรือเทคโนโลยีอื่นใดที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน (“คุกกี้”) บนเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและบริการให้ตอบสนองต่อความต้องการของคุณมากยิ่งขึ้น

เมื่อท่านได้เข้าสู่เว็บไซต์ (https://www.beger.co.th/) ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่เว็บไซต์ ของท่านจะถูกบันทึกไว้ในรูปแบบของคุกกี้ โดยนโยบายคุกกี้นี้จะอธิบายถึงความหมาย การทำงาน วัตถุประสงค์ รวมถึงการลบและการปฏิเสธการเก็บคุกกี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวของท่าน โดยการเข้าสู่เว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตามนโยบายคุกกี้ที่มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. คุกกี้คืออะไร

คุกกี้ คือ ไฟล์เล็ก ๆ เพื่อจัดเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์ เช่น วันเวลา ลิงค์ที่คลิก หน้าที่เข้าชม เงื่อนไขการตั้งค่าต่าง ๆ โดยจะบันทึกลงไปในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ/หรือ เครื่องมือสื่อสารที่เข้าใช้งานของท่าน เช่น โน๊ตบุ๊ค แท็บเล็ต หรือ สมาร์ทโฟน ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ในขณะที่ท่านเข้าสู่เว็บไซต์ โดยคุกกี้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ/หรือ เครื่องมือสื่อสารของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกจัดเก็บเพื่อใช้เพิ่มประสบการณ์การใช้งานบริการทางออนไลน์ โดยจะจำเอกลักษณ์ของภาษาและปรับแต่งข้อมูลการใช้งานตามความต้องการของท่าน เป็นการยืนยันคุณลักษณะเฉพาะตัว ข้อมูลความปลอดภัยของท่าน รวมถึงบริการที่ท่านสนใจ นอกจากนี้คุกกี้ยังถูกใช้เพื่อวัดปริมาณการเข้าใช้งานบริการทางออนไลน์ การปรับเปลี่ยนเนื้อหาตามการใช้งานของท่านโดยพิจารณาจากพฤติกรรมการเข้าใช้งานครั้งก่อน ๆและ ณ ปัจจุบัน และอาจมีวัตถุประสงค์เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ allaboutcookies.org

2. บริษัท เบเยอร์ จำกัด ใช้คุกกี้อย่างไร

3. ท่านจะจัดการคุกกี้ได้อย่างไร

 

นโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท เบเยอร์ จำกัด (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “บริษัท”) ตระหนักและให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ/คู่ค้าและบุคลากรภายในของบริษัท และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ในเรื่องการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ/คู่ค้าและบุคลากรภายในบริษัท เป็นสำคัญ

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) ฉบับนี้จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านในฐานะผู้ใช้บริการ/คู่ค้าและบุคลากรภายใน บริษัทได้ทราบรายละเอียดของวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ ของท่านภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

ทั้งนี้ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ในประกาศนี้ บริษัทดำเนินการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) ซึ่งหมายความว่า บริษัทเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

คำนิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“บริษัท” หมายความถึง บริษัท เบเยอร์ จำกัด
“ผู้ปฏิบัติงาน” หมายความรวมถึง พนักงาน เจ้าหน้าที่ และผู้ปฏิบัติงานของบริษัท เบเยอร์ จำกัด
“ผู้ใช้บริการ/คู่ค้า” หมายความรวมถึง ผู้ใช้บริการ/คู่ค้า ของบริษัท เบเยอร์ จำกัด
“บุคลากรภายใน” หมายความรวมถึง พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ หรือ ผู้ปฏิบัติงานของ บริษัท เบเยอร์ จำกัด


 

กดอ่านประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)


 

บริษัทดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

1. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้ฐานกฎหมายดังต่อไปนี้

1.1 ฐานสัญญา (Contract) ความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญา การปฎิบัติตามปกติประเพณีทางการค้า หรือ เพื่อการประมวลผลชื่อและที่อยู่ของบุคคลเพื่อดำเนินการจัดส่งสินค้าของบริษัทขนส่ง เป็นต้น

1.2 ฐานการปฎิบัติ/หน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation) ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลอื่น โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

1.3 ฐานจดหมายเหตุ/วิจัย/สถิติ (Historical Document, Research, or Statistics) ความจำเป็นเพื่อการทำบันทึกจดหมายเหตุ วิจัย หรือสถิติต่าง ๆ ภายใต้กรอบวัตถุประสงค์ในทางการค้าของบริษัท เป็นต้น

1.4 ฐานความยินยอม (Consent)  ได้รับความยินยอมที่สมบูรณ์จากท่าน ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมของท่าน เช่น การสมัครเข้าเป็นคู่ค้า สมัครสมาชิก หรือการจัดทำสื่อโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ของบริษัทท่านอาจปรากฎเป็นส่วนหนึ่งส่วนใด เป็นต้น

2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

2.1 เพื่อประกอบการรับสมัครเข้าเป็นคู่ค้า สมาชิก หรือรับบริการใดๆอันเกี่ยวเนื่องจากธุรกิจ ที่จัดโดยบริษัทหรือเครือข่ายของบริษัท ซึ่งผู้ใช้บริการ/คู่ค้า ดำเนินการลงทะเบียนหรือส่งใบสมัครมาตามช่องทางที่บริษัทจัดไว้

2.2 เพื่อประมวลผลและจัดทำรายงานสถิติการใช้บริการ ของผู้ใช้บริการ/คู่ค้า  

2.3 เพื่อการติดต่อประสานงานและแจ้งข้อมูลข่าวสาร โปรโมชั่นต่างๆ ให้แก่ผู้ใช้บริการ/คู่ค้า

2.4 เพื่อการรักษาความปลอดภัยของอาคารสถานที่ของบริษัท

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ 2 บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังรายการต่อไปนี้

3.1 แหล่งข้อมูลและรายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม มีดังนี้

แหล่ง/วิธีการเก็บรวบรวมรายการข้อมูลส่วนบุคคล
1. ข้อมูลที่เก็บโดยตรงผ่านการกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ https://www.beger.co.th/  หรือการที่ท่านส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทโดยตรง
ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ รูปถ่าย สัญชาติ ตำแหน่ง  ที่อยู่ที่ติดต่อได้ เบอร์โทรศัพท์มือถือ อีเมล์ ไอดีไลน์ เลขบัตรประจำตัวประชาชน ประวัติการทำงาน เลขที่บัญชีธนาคารของบุคคล เป็นต้น
 
2. ข้อมูลที่เก็บโดยการใช้เทคโนโลยีตรวจจับหรือติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ https://www.beger.co.th/ ของท่าน
เว็บไซต์คุกกี้ ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลการใช้ Application, Device ID, Browsing history
 

 

3.2 จุดประสงค์การใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล

จุดประสงค์ในการใช้ข้อมูลรายการข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้

1. พิจารณาการเปิดบัญชี  ผู้ใช้บริการ/คู่ค้า
 

ชื่อ-นามสกุล อายุ เลขบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ที่ติดต่อได้ เบอร์โทรศัพท์มือถือ อีเมล์ ไอดีไลน์ เลขที่บัญชีธนาคาร
 

2. ประมวลผลและจัดทำรายงานการรับบริการกับบริษัท
 

ชื่อ-นามสกุล อายุ เลขบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ที่ติดต่อได้ เบอร์โทรศัพท์มือถือ อีเมล์ ไอดีไลน์ เลขที่บัญชีธนาคาร ผลสำรวจความคิดเห็นหรือความพึงพอใจต่อการรับบริการ
 

3. จัดทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อเผยแพร่ในช่องทางประชาสัมพันธ์ต่างๆของบริษัท
 

ภาพถ่าย วีดิทัศน์ หรือสือต่าง ๆ ในรูปแบบออนไลน์
 

4. ติดต่อประสานงานและแจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆ ให้แก่ ผู้ใช้บริการ/คู่ค้า
 

ไอดีไลน์ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์
 

5. บริหารจัดการการฝึกอบรมหรือกิจกรรมภายในอื่นๆ ของบริษัท
 

ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีความจำเป็นต่อการดำเนินงานตามกฎหมายของบริษัท
 

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อประเภทของบุคคลและช่องทางดังต่อไปนี้

4.1 เจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่วนงานที่มีอำนาจหน้าที่ หรือบุคคลอื่นเพื่อการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด คำสั่งของผู้มีอำนาจ คำสั่งหรือหมายศาล เป็นต้น

4.2 ส่วนงานเครือข่าย คู่สัญญา ผู้ให้บริการหรือบุคคลผู้เกี่ยวข้องหรือมีความจำเป็นในการให้บริการของบริษัทซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลของท่าน เช่น ผู้ให้บริการระบบฐานข้อมูล ผู้จัดส่งเอกสารหรือผู้พัฒนาเว็บไซต์ เป็นต้น

4.3 ประกาศต่อสาธารณะ ในกรณีเช่น การประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม หรือรับรางวัลหรือ อบรม สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ซึ่งมีผู้ผู้ใช้บริการ/คู่ค้า ปรากฏเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ของบริษัท https://www.beger.co.th/  และประกาศผ่านสื่อ Social Media เช่น Facebook ของบริษัท เป็นต้น

ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อน บริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

5. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ของท่าน

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

5.1 สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาลและกรณีที่การขอเข้าถึงและรับสำเนาของท่านจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

5.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

5.3 สิทธิในการขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้

5.3.1 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัททำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน

5.3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

5.3.3 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้แจ้งแก่ท่านในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้บริษัทเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน

5.3.4 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัทกำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

5.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของบริษัท)

6. ระยะเวลาที่บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาดังต่อไปนี้

6.1 สำหรับข้อมูลบุคลากรภายใน เก็บรักษาไว้  ๑๐ ปี นับจากวันที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัท

6.2 สำหรับข้อมูลผู้ใช้บริการ/คู่ค้า   เก็บรักษาไว้ ๕ ปี นับจากวันที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัท

6.3 สำหรับข้อมูลผู้ใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท เก็บรักษาไว้ ๓ ปี นับแต่วันที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคล

6.4 สำหรับข้อมูลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ เก็บรักษาไว้ ๓ ปี นับแต่วันที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคล

เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว บริษัทจะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อหมดความจำเป็นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งแก่ท่าน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลบางส่วนเพื่อประโยชน์ของท่าน เช่น การจัดทำและเก็บรักษาประวัติการสั่งซื้อสินค้าและการรับบริการของท่านเพื่อเป็นหลักฐานการสั่งซื้อสินค้าและชำระราคาของท่าน หรือในกรณีที่ท่านได้ใช้สิทธิหรือมีข้อพิพาทหรือคดีความหรือการใช้บริการของท่าน บริษัทขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าภารกิจดังกล่าวจะมีข้อกำหนดให้ยกเลิก หรือข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว

7. คุกกี้

บริษัทเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของบริษัท ได้แก่ https://www.beger.co.th/ หรือบนอุปกรณ์ของท่าน ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของบริษัท และเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของบริษัท และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัทให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของท่าน

8. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของบริษัท

นอกจากนี้ บริษัทได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) ขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม

9. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและผู้แทน

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อได้รับคำร้องขอจากท่าน ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายของท่าน โดยส่งคำร้องขอผ่าน Beger Contact Center  อีเมล : dpo@beger.co.th หรือ https://www.beger.co.th/

ในกรณีที่ท่าน ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายมีการคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใด ๆ เช่น การแจ้งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย

ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธสิทธิตามวรรคสองได้ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวท่านได้

10. การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง

ในกรณีที่มีความจำเป็น บริษัทอาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของบริษัท ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น

การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทจะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่บริษัทมอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของบริษัทเท่านั้นโดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้

ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้ บริษัทจะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่างบริษัทกับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

11. การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก

เว็บไซต์ของบริษัทอาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากประกาศนี้ บริษัทขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ บริษัทไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวและไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม

12. การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทได้กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่และบุคคลเฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่และบุคคลดังกล่าวปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด

13. การแก้ไขประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

บริษัทอาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ https://www.beger.co.th/consent โดยมีวันที่ของเวอร์ชั่นล่าสุดกำกับไว้ อย่างไรก็ดี บริษัทขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

การเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว ถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว

14. ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท และการติดต่อสอบถาม

หากท่านประสงค์จะติดต่อบริษัท เพื่อใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือหากท่านมีข้อสงสัยอื่นใดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) และคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
บริษัท เบเยอร์ จำกัด
เลขที่ 90,92 ถนนบรรทัดทอง แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
เบอร์ติดต่อ 02-611-3434
dpo@beger.co.th

ลงทะเบียนอัพเดตข่าวสารจากเบเยอร์

โทร : +66-2-425-0422
แฟ็กซ์ : +66-2-425-0422
อีเมล : info@chang-si.com

Data
  • ติดต่อเรา
  • Payment Options
  • Orders & Delivery
Category
  • สีทาบ้าน
  • อุปกรณ์ช่าง
Service
  • นโยบายการคืนสินค้า
  • บริการทาสีบ้านครบวงจร
  • บริการติดตั้ง solar cell
@ 2022 by Beger Co., Ltd. All Right Reserved.
เลือกภาษา